ประภาภรณ์ เชยวัดเกาะ หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ “มาดามเปิ้ล” เกิดเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2522 เธอเป็นคนจังหวัดสุโขทัยโดยกำเนิด และมีเส้นทางชีวิตที่เต็มไปด้วยสีสันทั้งในด้านการเรียน การทำงาน และการใช้ชีวิตส่วนตัว โดยเธอจบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านภาษาอังกฤษจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และต่อปริญญาโททางรัฐประศาสนศาสตร์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏพิษณุโลก ชีวิตของเธอไม่ธรรมดา เพราะเคยเปลี่ยนชื่อหลายครั้ง เช่น ธัญญ์ณภัส และ ทิพย์พวรรณ์ กิตติธงโสภณ ซึ่งอาจสะท้อนถึงความเชื่อและการเริ่มต้นใหม่ในแต่ละช่วงชีวิต พร้อมทั้งเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นผู้หญิงที่กล้าเปลี่ยนแปลงตัวเองตลอดเวลา
ครอบครัวและชีวิตส่วนตัวของประภาภรณ์ เชยวัดเกาะ
ประภาภรณ์ เชยวัดเกาะ แต่งงานและมีลูกทั้งหมด 4 คน ซึ่งประกอบด้วยลูกสาว 3 คนและลูกชาย 1 คน โดยลูกคนโตชื่อ มายด์ สิริกร ซึ่งเป็นที่รู้จักในวงการบันเทิงในฐานะนักร้องนักแสดง ขณะที่ลูกอีก 3 คนได้แก่ มาร์กเกอร์ มินนี่ และเมอร์เมด ก็เป็นที่สนใจของสังคมเนื่องจากมีไลฟ์สไตล์ทันสมัยตามแบบครอบครัวคนรุ่นใหม่ ชีวิตครอบครัวของมาดามเปิ้ลนั้นแม้จะดูอบอุ่น แต่ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความเป็นส่วนตัวสูง ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ของเธอในสังคม โดยเฉพาะในบทบาทที่เธอเลือกแสดงออกอย่างชัดเจนในพื้นที่สาธารณะ
ธุรกิจและบทบาทของประภาภรณ์ เชยวัดเกาะในสุโขทัย
ประภาภรณ์ เชยวัดเกาะ เป็นนักธุรกิจหญิงที่มีอิทธิพลในจังหวัดสุโขทัย เธอเป็นเจ้าของกิจการหลายประเภท เช่น ร้านอาหาร Café de Tree ที่มีชื่อเสียงในท้องถิ่น ธุรกิจก่อสร้างผ่านบริษัท สุโขทัย ป.นิวเอ็นจิเนียริ่ง รวมถึงธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์และโรงแรม โดยเธอยังมีบทบาทในหอการค้าจังหวัดสุโขทัยในฐานะรองเลขาธิการ และได้ใช้เวทีนั้นในการส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น เธอถือเป็นผู้หญิงที่มีพลังทางธุรกิจและใช้โอกาสทางเศรษฐกิจเพื่อผลักดันสังคมรอบตัวให้เติบโตไปด้วยกัน
เบื้องหลังวงการบันเทิงและการจัดประกวดของประภาภรณ์ เชยวัดเกาะ
นอกจากบทบาทนักธุรกิจแล้ว ประภาภรณ์ เชยวัดเกาะ ยังเคยเข้าสู่วงการบันเทิงในฐานะผู้จัดซีรีส์เรื่อง Be My Boy รักแล้วไงหยุดไม่ได้แล้วล่ะ ที่ออกอากาศทางช่อง 5 ในปี 2561 และยังรับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการกองประกวด Miss Grand Sukhothai ปี 2018 รวมถึงนางนพมาศสุโขทัยปี 2020 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจของเธอในด้านความงามและวัฒนธรรม โดยเฉพาะการส่งเสริมเยาวชนให้กล้าแสดงออกอย่างมั่นใจและมีคุณค่าในแบบของตนเอง
เส้นทางการเมืองของประภาภรณ์ เชยวัดเกาะ
ในปี 2566 ประภาภรณ์ เชยวัดเกาะ ตัดสินใจก้าวเข้าสู่สนามการเมืองในฐานะผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 จังหวัดสุโขทัย ในนามพรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 9 โดยใช้สโลแกนที่น่าสนใจว่า “เลือกคนรุ่นใหม่ สุโขทัยต้องเปลี่ยนแปลง” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ในการเปลี่ยนแปลงบ้านเกิดให้ทันสมัยและมีพลังใหม่ในการพัฒนา แม้สุดท้ายจะไม่ชนะการเลือกตั้ง โดยได้คะแนนเป็นอันดับที่ 4 แต่การลงสนามครั้งนั้นได้สร้างกระแสพูดถึงในวงกว้าง และเพิ่มชื่อเสียงให้กับเธอในฐานะผู้หญิงแกร่งที่กล้าท้าทายเวทีใหญ่
ข่าวฉาวและกระแสวิจารณ์ต่อประภาภรณ์ เชยวัดเกาะ
ในปี 2567 ประภาภรณ์ เชยวัดเกาะ กลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งในหลายสำนักข่าวทั้งไทยและต่างประเทศ เมื่อมีภาพของเธอกับลูกบุญธรรมวัย 24 ปีซึ่งเป็นพระภิกษุ ปรากฏในท่าทางที่ถูกตีความว่าสนิทสนมเกินควร ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์อย่างรุนแรงบนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะในประเด็นทางศีลธรรมและศาสนา เธอออกมาชี้แจงว่าเป็นเพียงความสัมพันธ์ในลักษณะปรึกษา ไม่มีเรื่องชู้สาวตามที่เข้าใจกัน ซึ่งเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นสังคมที่สร้างแรงกระเพื่อมใหญ่ พรรคประชาธิปัตย์จึงมีมติสั่งระงับสถานะสมาชิกพรรคของเธอชั่วคราวเพื่อดำเนินการตรวจสอบ โดยเหตุการณ์นี้ทำให้ชื่อของประภาภรณ์กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง และสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของภาพลักษณ์คนสาธารณะในยุคดิจิทัล ณภัทร เสียงสมบุญ อายุ ปัจจุบัน
สรุปภาพรวมและอนาคตของประภาภรณ์ เชยวัดเกาะ
จากผู้หญิงธรรมดาในจังหวัดสุโขทัย สู่การเป็นนักธุรกิจ นักกิจกรรม ผู้จัดประกวด และนักการเมือง ประภาภรณ์ เชยวัดเกาะ คือภาพแทนของผู้หญิงยุคใหม่ที่กล้าท้าทายกรอบเดิมของสังคม เธอมีจุดยืนในหลายเรื่อง ใช้พลังของตัวเองในเวทีต่าง ๆ อย่างจริงจัง แม้จะเผชิญกับกระแสข่าวที่หนักหน่วง แต่ก็ยังไม่ละทิ้งเส้นทางของตัวเอง และพร้อมจะสู้ต่อในแบบที่เธอเชื่อว่าใช่ เพราะในโลกที่เต็มไปด้วยการจับตามอง ผู้หญิงอย่างประภาภรณ์คือแบบอย่างของความกล้า แรงใจ และการเดินหน้าต่อแม้เจออุปสรรค